คุณรู้หรือไม่ว่า ค่าโดยสารแท็กซี่สิงคโปร์คำนวณยังไง
ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า MRT รถบัสประจำทาง และ รถแท็กซี่ เข้าถึงแทบทุกซอกทุกมุม ด้วยความที่มีพื้นที่น้อยนั่นเอง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไปเยือนประเทศนี้ ถ้าไม่ใช้บริการบริษัททัวร์พาเที่ยว ก็คงต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างแน่นอน โดยรถไฟฟ้า และ รถบัส ค่าโดยสารจะชัดเจนเป็นไปตามระยะทางและปริมาณการใช้งาน ส่วนค่าโดยสารแท็กซี่สิงคโปร์นั้น จะมีราคาแพงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง เดี๋ยวผมจะมาเล่าประสบการณ์การใช้บริการและการคำนวณค่าโดยสารแท็คซี่สิงคโปร์ให้ทุกท่านได้รู้กัน
รถแท็กซี่สิงคโปร์ ใครเป็นเจ้าของได้บ้าง
ในระหว่างที่ผมนั่งแท็กซี่จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ผมเคยสนทนากับคนขับแท็กซี่ โดยบทสนทนามีดังนี้
ฉัน: คุณเป็นเจ้าของรถแท็กซี่คันนี้ใช่ไหม
คนขับแท็กซี่ : ไม่ใช่ โดยทั่วไปแล้วคนสิงคโปร์ไม่สามารถเป็นเจ้าของรถแท็กซี่ได้ เพราะรัฐบาลควบคุมโดยให้สัมประทานกับบริษัทที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ดังนั้นคนสิงคโปร์ที่ต้องการมีอาชีพอาชีพขับแท็กซี่ก็ต้องเช่าจากบริษัทที่ได้รับอนุญาตนั่นเอง
ฉัน : ค่าเช่าแท็กซี่วันละเท่าไหร่
คนขับแท็กซี่ : ประมาณ 100 SGD ราคามีขึ้นมีลง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ขนาด ความใหม่เก่าของรถ ฯลฯ และทำสัญญาเช่าอย่างต่ำ 6 เดือน
บริษัทที่ได้รับสิทธิจากรัฐบาลสิงคโปร์ในการให้บริการแท็กซี่มีอะไรบ้าง
ซึ่งผมได้รวบรวมข้อมูลมาแล้วมีดังนี้
1. Comfort Taxi
2. City Cab
3. SMRT Taxi
4. Trans Cab
5. Premier Taxi
6. Preme Taxi
7. Zig
รถแท็กซี่สิงคโปร์มีกี่ประเภท
- Standard taxi นั่งได้ 4 คน ค่าโดยสารคิดตาม meter
- EV taxi นั่งได้ 4 คน ค่าโดยสารคิดตาม meter แต่จะมีราคาสูงกว่า Standard taxi
- Limousine นั่งได้ 6 คน ให้ไปส่งที่ไหนก็ได้ในสิงคโปร์ คิดค่าโดยสารคิดราคาเดียว ประมาณ 65 SGD
วิธีคำนวณค่าโดยสารแท็กซี่สิงคโปร์
จากใบเสร็จรับเงินค่าโดยสารแท็กซี่ สิงคโปร์ที่ผมได้รวบรวมมีองค์ประกอบดังนี้
- Taxi no. คือ เลขทะเบียนรถแท็กซี่
- Trip no./receipt no. คือ หมายเลขใบเสร็จรับเงิน
- Feedback Hotline คือ เบอร์โทรศัพท์ Hotline
- Date/Time start คือ วันเวลาที่เริ่มใช้บริการ
- Date/Time end คือ วันเวลาที่สิ้นสุดการใช้บริการ
- Distance run คือ ระยะทางที่วิ่งทั้งหมด
- Meter Fare คือ ค่าโดยสารที่คิดจากระยะทาง
- Current booking คือ ค่าบริการที่เรียก taxi ผ่าน call center
- Location คือ ค่าโดยสารเริ่มต้น
- Peak Hour 25% , Late night 50% คือ ค่าบริการส่วนเพิ่มตามช่วงเวลา
- Total fare คือ ค่าโดยสารรวมทั้งหมด
ข้อ 1- 6 เป็นข้อมูลทั่วไปในการใช้บริการแท็กซี่ แต่การคำนวณค่าโดยสารมาจากปัจจัยในข้อ 7- 10 ซึ่งค่าโดยสารจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ และค่าโดยสารรวมทั้งหมดจะอยู่ในข้อ 11 ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ ค่าทางด่วน (ERP : Electronic road pricing) ผู้โดยสารเป็นผู้ชำระทั้งหมด แต่จะรวมอยู่ในข้อไหนผมเองก็ไม่ทราบเช่นกัน คงต้องรบกวนผู้รู้ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
การเรียกใช้บริการแท็กซี่มีวิธีใดบ้าง
- ยืนรอเรียกริมถนน แต่ก็ต้องสังเกตตัวอักษรที่แสดงบนป้ายที่หลังคารถแท็กซี่ด้วย อย่างเช่นถ้าแสดง Busy , Hired , change shift แสดงว่ารถแท็กซี่คันนั้นยังไม่พร้อมให้บริการ
- รอเข้าคิวตรงป้าย Taxi stand
- เรียกผ่าน call center
- เรียกผ่าน Application
คำแนะนำในการใช้บริการรถแท็กซี่
จะมีข้อความประกาศให้ผู้ใช้บริการแท็กซี่ติดอยู่ทั่วสิงคโปร์โดยเฉพาะจุดที่เป็นจุดจอดรับผู้โดยสาร และมีข้อความดังนี้
- We recommend To Request For A Printed Receipt At The End Of Your Journey.
- Taxi Touting and Overcharging are illegal.
- Fares must be charged according to the taximeter, plus applicable surcharges.
- Receipt must be issued for all street-hail and booking trips.
- Please call +65 8138 9868 to report errant taxi driver. Thank you.
ซึ่งจะเป็นการแนะนำให้ขอใบเสร็จทุกครั้งที่ใช้บริการ อีกทั้งยังบอกว่าการเก็บค่าโดยสารเกินนั้นผิดกฏหมายสามารถโทรศัพท์รายงานคนขับแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมดังกล่าวที่เบอร์ +65 8138 9868
บทสรุปการใช้บริการแท็กซี่สิงคโปร์
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการใช้บริการแท็กซี่สิงคโปร์ที่ไม่รวมถึงแท็กซี่ที่เรียกผ่าน application grab ฯลฯ โดยรถแท็กซี่ก็เป็นบริการขนส่งสาธารณะ ถูกควบคุมโดยรัฐบาลสิงคโปร์และมีค่าโดยสารที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด หากคนขับแท็กซี่เรียกเก็บค่าโดยสารเกินราคายังเป็นเรื่องผิดกฎหมายประเทศสิงคโปร์ หากท่านใดกลัวถูกโกงค่าโดยสารก็ให้ขอใบเสร็จหลังจากใช้บริการทุกครั้ง แม้ว่าคุณจะถูกโกงค่าโดยสาร คุณสามารถแจ้งหรือรายงานไปที่ HOTLINE หมายเลข +65 8138 9868